Geoharbour

Vacuum Consolidation Method (VCM) การปรับปรุงคุณภาพดินเพื่อลดปัญหาดินทรุดตัว

Vacuum Consolidation Method (VCM) - Geoharbour
ปัญหาดินทรุดตัว (Soil Settlement) ถือเป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญของงานก่อสร้างโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่มีชั้นดินเหนียวอ่อน (Bangkok Soft Clay) หนาและมีค่าความสามารถในการรับน้ำหนักต่ำ หากไม่มีการปรับปรุงคุณภาพดินก่อนก่อสร้างอาจทำให้เกิดการทรุดตัวของอาคาร ถนน หรือโครงสร้างพื้นฐานภายหลังการใช้งาน ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและเพิ่มค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในอนาคต
หนึ่งในวิธีการที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในการแก้ไขปัญหานี้ คือ Vacuum Consolidation Method (VCM) ซึ่งเป็นเทคนิคการปรับปรุงคุณภาพดินที่ช่วยเร่งการทรุดตัวของดินด้วยระบบสูญญากาศ (Vacuum System) วิธีนี้สามารถควบคุมการทรุดตัวของดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้อะไรคือหลักการสำคัญที่ทำให้ VCM เหมาะกับการก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมถึง หลักการ จุดเด่น ข้อจำกัด และสุดท้ายลักษณะโครงการที่เหมาะสมต่อการนำวิธีการนี้ไปใช้งานในบทความนี้มีคำตอบให้ครับ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

วิธีการ Vacuum Consolidation Method (VCM) คืออะไร?

Vacuum Consolidation Method (VCM) คือการปรับปรุงคุณภาพดินโดยใช้ระบบสูญญากาศในการเร่งการทรุดตัวล่วงหน้าให้เกิดขึ้นก่อนการก่อสร้างจริง หลักการทำงานคือการ ลดช่องว่างระหว่างอนุภาคดิน ผ่านกระบวนการคายน้ำ (Dewatering) ภายใต้แรงดันลบ (Negative Pressure) ระบบนี้จะสร้าง แรงดันน้ำในโพรงดินที่เป็นลบ (Negative Pore Water Pressure) ซึ่งส่งผลให้ หน่วยแรงประสิทธิผล (Effective Stress) ของดินเพิ่มขึ้น อนุภาคดินจึงจับตัวกันแน่นขึ้น เกิดการอัดตัวต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
ผลลัพธ์คือ:
  • ดินมีการทรุดตัวอย่างควบคุมได้
  • การทรุดตัวหลังก่อสร้างลดลงอย่างมาก
  • ค่ากำลังรับน้ำหนักของดิน (Bearing Capacity) เพิ่มขึ้นจนรองรับโครงสร้างได้ตามเป้าหมายของโครงการ
วิธีการ Vacuum Preloading นี้สอดคล้องกับทฤษฎีการอัดตัวคายน้ำ (Consolidation Theory) โดยถือว่า หน่วยแรงรวมคงที่ แต่ หน่วยแรงประสิทธิผลเพิ่มขึ้น จากการที่แรงดันน้ำในโพรงดินลดลง หลักการคำนวณจึงใกล้เคียงกับวิธี Soil Preloading แบบทั่วไป

อุปกรณ์หลักที่ใช้ในวิธีการ Vacuum Consolidation Method (VCM) มีอะไรบ้าง?

  1. แผ่นระบายน้ำในแนวดิ่ง (Prefabricated Vertical Drain, PVD) 
  2. ท่อระบบระบายน้ำในแนวราบ (Prefabricated Horizon System, PHS)
  3. แผ่นทึบอากาศ (Geomembrane)
  4. แผ่นใยสังเคราะห์ (Geotextile)
  5. ปั๊มสูญญากาศ (Vacuum Pump)

วิธีการ Vacuum Consolidation Method (VCM) เหมาะกับดินแบบไหน?

VCM เหมาะกับดินที่มีอนุภาคละเอียดปะปนอยู่สูงและมีความสามารถในการซึมผ่านของน้ำที่ต่ำ (Low Permeability) เช่น ดินเหนียวอ่อน (Soft Clay) ซึ่งมีขนาดอนุภาคเล็กกว่า 0.075 มม. และเป็นดินที่ผ่านตะแกรงเบอร์ #200 มากกว่า 50%

รูปภาพตัวอย่างของพื้นที่ดินเหนียวอ่อนก่อนทำการปรับปรุงคุณภาพดิน

รูปภาพตัวอย่างของพื้นที่ดินเหนียวอ่อนหลังทำการปรับปรุงคุณภาพดิน

จุดเด่น และข้อจำกัดของวิธีการ Vacuum Consolidation Method (VCM) มีอะไรบ้าง?

จุดเด่น (Benefits)

  • ลดระยะเวลาในการปรับปรุงดิน: เร่งการทรุดตัวล่วงหน้าให้เสร็จภายใน 6 เดือน – 1 ปี ซึ่งเร็วกว่าวิธีถมดินแบบดั้งเดิม (Surcharge Preloading)
  • ควบคุมการทรุดตัวได้ดี: การติดตั้งระบบตรวจวัดและควบคุมแรงดันช่วยคาดการณ์การทรุดตัวได้แม่นยำ
  • เหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่: สามารถนำไปปรับใช้กับโครงการที่ต้องการเร่งพัฒนา เช่น ถนน สนามบิน ท่าเรือ หรืออาคารสูง
  • ลดการใช้วัสดุดินถม: เหมาะกับพื้นที่ที่ขาดแคลน และหาดินถมสำหรับทำ Surcharge Preloading ได้ยาก

ข้อจำกัด (Limitation)

  • เหมาะกับดินอิ่มน้ำที่มีการซึมน้ำต่ำเท่านั้น: ประสิทธิภาพของ VCM จะลดลงเมื่อใช้กับดินที่มีการซึมน้ำสูงดินทรายหรือดินกรวดเพราะปริมาณน้ำที่อยู่ในอนุภาคดินจะถูกระบายออกเร็วจนไม่สามารถสร้างระบบสุญญากาศได้เหมาะสม
  • ขั้นตอนการติดตั้งระบบต้องใข้ความชำนาญสูง: โดยเฉพาะในขั้นตอนของการติดตั้ง PVD และ Geomembrane หากเกิดการรั่วซึมจะทำให้การเกิดระบบสุญญากาศเกิดขึ้นได้ไม่สมบูรณ์
  • ต้องวางแผนพื้นที่ Buffer Area ให้ดี: เพราะแรงดันจากปั้มอาจทำให้เกิดความเสียหายของพื้นที่ข้างเคียง
  • ต้องมีการควบคุม และทำการติดตามอย่างต่อเนื่อง: โดยใช้เครื่องมือตรวจวัดแรงดันสุญญากาศ และทำการตรวจสอบการทำงานของระบบไฟฟ้า สภาพการระบายน้ำตลอดระยะเวลาดำเนินการของโครงการ

งานหรือโครงการแบบไหนที่เหมาะกับวิธีการ Vacuum Consolidation Method (VCM)?

VCM เหมาะกับการพัฒนาพื้นที่ก่อสร้างหรือโครงการที่หลากหลายทั้งโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการถมที่ดินเพื่อสร้างอาคารสูง ถนน สนามบิน หรือท่าเรือ จนถึงโครงการหมู่บ้านจัดสรรก็สามารถใช้วิธีการเร่งการทรุดตัวของดินด้วย VCM ได้ โดยเน้นที่เรื่องของการควบคุมการทรุดตัวและต้องการลดระยะเวลาก่อสร้าง

สรุป

VCM เป็นหนึ่งในเทคนิคที่เหมาะสมสำหรับกับการปรับปรุงคุณภาพดินเหนียวอ่อนหรือดินที่มีอนุภาคความละเอียดสูง โดยสามารถช่วยลดระยะเวลา ควบคุมการทรุดตัว และเพิ่มความมั่นคงให้กับโครงสร้างในอนาคตอย่างไรก็ตามควรเลือกใช้ VCM ควบคู่กับการวิเคราะห์ด้านวิศวกรรมปฐพีที่เหมาะสมกับเงื่อนไขของโครงการเพื่อให้การปรับปรุงคุณภาพดินเกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด

อ่านเพิ่มเติม

  1. ศูนย์วิจัยและพัฒนาวิศวกรรมปฐพีและฐานราก ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (2561). การแก้ปัญหาการทรุดตัวของงานถนน งานถมที่ และถมบ่อดิน ในพื้นที่ดินเหนียวอ่อนกรุงเทพฯ ด้วยการปรับปรุงคุณภาพดิน และเทคนิค VCM
  2. Indraratna, B., Sathananthan, I., Rujikiatkamjorn, C., & Balasubramaniam, A. S. (2005). “Vacuum Consolidation Technology: Principles and Field Applications.” Geotechnical Engineering, 36(1), 5-15.
  3. Sujatha, E.R., & Robinson, R.G. (2015). “Application of Vacuum Consolidation Method for Soft Clay Improvement.” International Journal of Engineering and Technology, 7(3), 851-857.
  4. กรมโยธาธิการและผังเมือง. (2562). คู่มือแนวทางการปรับปรุงคุณภาพดินสำหรับงานก่อสร้าง.

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม

Facebook: Facebook Profile 

Linkedin: Linkedin Profile

Scroll to Top